ที่ว่ากันว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” นั้นบอกเลยว่าไม่เกินจริง เพราะความสวยงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน แต่เมื่อโลกผันผ่านไปตามกาลเวลา อายุของเราก็มากขึ้นอย่างหลีกหนีไม่ได้ ความโรยราตามวัยย่อมต้องมีตามมา และแน่นอนว่าหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยที่เป็นตัวช่วยให้คุณผู้หญิงทั้งหลายยังคงความงามไว้ได้ก็คือ เครื่องสำอาง แต่ทุกวันนี้การที่เราจะหวังพึ่งเครื่องสำอางเพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป Power จึงได้ไปสรรหาหลากไอเทมเพื่อการบำรุงผิวหน้าอย่างแท้จริงพร้อมการแต่งเติมเสริมสีสันบนใบหน้าเพื่อความสวยอย่างเป็นอมตะ ให้ได้ลุค “สาวสองพันปี”
ให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
เราควรให้ความสำคัญกับการบำรุงผิวหน้าอยู่เป็นประจำจนเป็นกิจวัตร ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมบำรุงผิวที่ช่วยให้คุณมีผิวหน้าชุ่มชื้น และให้การบำรุงฟื้นฟูได้อย่างล้ำลึก ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับผิว ซึ่งการบำรุงผิวที่ดีถือเป็นการเริ่มต้นสำหรับการเตรียมผิวหน้าที่ดีก่อนแต่งหน้าในลำดับต่อไป จะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนมากขึ้น ไม่หลุดลอกระหว่างวัน และไม่ควรละเลยในเรื่องของการทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อมีเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าจะทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคือง เป็นต้นเหตุของการอุดตันและอาจทำให้เกิดสิว นอกจากนี้ยังทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและทิ้งรอยด่างดำได้
เลือกรองพื้นผิดชีวิตอาจเปลี่ยน
การเลือกรองพื้นนั้นถือเป็นหัวใจสำคัญของการแต่งหน้า เพราะการลงสีรองพื้นผิดหรือใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไปก็ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนได้! การโบกรองพื้นลงบนผิวหน้าเพื่อหวังว่าจะช่วยกลบริ้วรอยที่มีได้นั้น ถือเป็นความคิดที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะเมื่อเราลงรองพื้นบนใบหน้ามากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มความชัดของริ้วรอยมากขึ้นเท่านั้น มิหนำซ้ำอาจจะเกิดรอยแตกของเครื่องสำอางในระหว่างวันอีกด้วย หรือหากต้องการปรับโทนสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นก็ไม่ควรเลือกสีที่สว่างกว่าสีผิวของเรา แต่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ หรือใช้แปรงทารองพื้นในการเพิ่มความชุ่มชื้น จะช่วยให้ผิวหน้าของเราดูไบรต์และไม่หนักหน้าจนเกินไป อย่าลืมเกลี่ยลงมาให้ถึงลำคอเพื่อเบลนด์ให้สีผิวดูสม่ำเสมอ และอาจจะใช้คอนซีลเลอร์เพื่อช่วยกลบรอยคล้ำในจุดบกพร่องที่เห็นได้ชัด อย่างเช่นบริเวณใต้ดวงตา เพื่อเป็นการเริ่มต้นความสมบูรณ์แบบของการแต่งหน้าในครั้งนี้
บรอนเซอร์ใครคิดว่าไม่สำคัญ
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่แทบจะขาดไม่ได้สำหรับการสร้างมิติบนใบหน้าให้ดูคมชัดโดดเด่น ช่วยให้ผิวหน้าดูอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติก็คือบรอนเซอร์ การเลือกลงสีที่อุ่นกว่าสัก 2 เฉดสี จะให้ลุคที่ดูอ่อนเยาว์และเป็นการเพิ่มสีสันบนใบหน้าไม่ให้ดูซีดจนเกินไป โดยสามารถลงบริเวณใต้โหนกแก้ม ข้างจมูก ไรผมหน้าผาก รวมไปถึงใต้กราม
หัดปัดแก้มอย่างมืออาชีพ
จากเทคนิคดั้งเดิมที่บอกให้ยิ้มแล้วค่อยปัดบลัชออนจะให้ลุคเสมือนมีลูกแอปเปิลแดงอยู่บนแก้มนั้น คงต้องหยุด! เพราะเทคนิคที่เหล่าช่างแต่งหน้ามืออาชีพแนะนำก็คือ ให้ลงบลัชออนบริเวณด้านบนของโหนกแก้ม แล้วเกลี่ยเข้าด้านใน ซึ่งเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด และเฉดสีชมพูส้มเป็นสีที่ช่วยเพิ่มความสดใสและเพิ่มเสน่ห์ แลดูอ่อนกว่าวัย สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแบบฝุ่นและแบบครีม หรือจะใช้ทั้งสองแบบในคราวเดียวกันก็ได้ เพื่อเพิ่มความติดทนทานให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
ดวงตาสวยช่วยลดอายุ
ดวงตาถือได้ว่าเป็นหน้าต่างของหัวใจ ยิ่งดวงตาเปิดกว้างมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยลดอายุให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้นเท่านั้น และหนึ่งในตัวเอกที่จะช่วยให้ดวงตาของคุณดูสวยขึ้นได้ก็คือ ขนตา ซึ่งเราก็มีเคล็ดลับในการดัดขนตาเพื่อความเป็นธรรมชาติมาฝากกัน นั่นคือ ให้เริ่มดัดขนตาจากโคนตาแล้วค่อยขยับออกมาทีละน้อยจนถึงปลาย และที่สำคัญมาสคาร่าที่เราเลือกใช้นั้นอาจจะใช้สูตรที่มีส่วนผสมของวิตามินบี เพื่อช่วยบำรุงขนตาให้แข็งแรงไปพร้อมๆ กัน ไม่ควรเลือกสูตรหนาเป็นพิเศษเพราะจะทำให้จับตัวกันเป็นก้อน และควรหลีกเลี่ยงการติดขนตาถ้าไม่อยากให้ดูแก่เกินวัย อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความคมชัดให้ดวงตาด้วยอายไลเนอร์สีดำ ซึ่งช่างแต่งหน้ามืออาชีพแนะนำว่าแม้ผู้หญิงที่อายุเกิน 50 ปี ก็ยังสามารถใช้ได้! ไม่จำเป็นต้องเลือกสีน้ำตาลเพราะอาจยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้ดวงตาดูอ่อนล้าหากไม่ใช่โทนสีน้ำตาลที่เหมาะสม
อยากเป็นคนคิวต์ต้องมีคิ้ว
มาถึงการแต่งแต้มมงกุฎของใบหน้าอย่างคิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นจุดสำคัญอีกหนึ่งจุด ซึ่งเราก็มีเทคนิคการแต่งคิ้วอันแสนง่ายดาย นั่นก็คือ เน้นความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด อาจจะเลือกใช้ดินสอเขียนคิ้วแบบบางเบาในการช่วยจัดแต่งทรง และจำเป็นต้องเก็บรายละเอียดของคิ้วทุกเส้นเพื่อความเป็นระเบียบ สวยงามได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ปากสวยต้องมีสมดุล
ปิดท้ายด้วยการเลือกใช้ลิปสติก โดยเราสามารถใช้ตัวช่วยอย่างดินสอเขียนขอบปากเข้ามาเป็นตัวเสริมได้ โดยให้วาดเป็นสี่จังหวะแยกจากกัน เริ่มจากมุมด้านนอกทั้งสี่ด้านและวาดไปที่กึ่งกลางของริมฝีปากล่างเสมอก่อนที่จะทาลิปสติก ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ริมฝีปากของคุณมีความสมดุลมากขึ้น จากนั้นก็ใช้แปรงทาปากเกลี่ยบริเวณขอบปากเล็กน้อยเพื่อให้ดูนุ่มนวลขึ้น หรือในบางครั้งอาจจะเพิ่มกลอสอย่างบางเบาเพื่อความเงางาม อวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ
ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางทั้งหลายที่ Power แนะนำไปข้างต้นนั้น อาจจะช่วยในเรื่องของความสวยงามได้เพียงส่วนของการดูแลภายนอกเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วหากจะให้ดียิ่งขึ้นคุณผู้หญิงทั้งหลายควรหมั่นหาเวลาออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์อยู่เสมอ เพื่อเราจะได้เป็นสาวสองพันปีที่ดูดีจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง
BEAUTY INSIDER
*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
Official Brands
https://www.instagram.com/lamer/