เมื่อพูดถึง “โรคออฟฟิศซินโดรม” หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเพราะต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น ถึงจะเป็นสาเหตุของโรคนี้ได้ แต่ความเป็นจริงแล้วมีปัจจัยร่วมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การขับรถ หรือทำกิจกรรมด้วยท่าเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นเวลานาน โดยไม่ได้มีการขยับหรือเปลี่ยนท่าทาง ล้วนทำให้เกิดอาการของโรคนี้ได้ทั้งสิ้น และเมื่อสะสมอาการไว้เป็นเวลานาน ก็จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย จนเกิดอาการปวดหรือร้าวชาลงแขนและหลังได้
ปัจจุบันการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมมีหลายวิธี หลักๆ คือ เน้นการกายภาพบำบัดทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ซึ่งก็มีวิธีการรักษาให้เลือกหลายแบบ ขึ้นอยู่กับอาการบาดเจ็บของแต่ละบุคคล เป็นต้นว่า การกายภาพบำบัดด้วยคลื่นอัลตราซาวด์, การกายภาพบำบัดด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า, การกายภาพบำบัดด้วยแผ่นประคบร้อน และการกายภาพบำบัดด้วยการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล แต่ในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ การจะเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปกายภาพบำบัด อาจดูไม่ค่อยสะดวกนัก Power จึงอาสาจัด 5 ท่า สำหรับยืดเส้นเบื้องต้น เพื่อคลายความตึงของกล้ามเนื้อ และช่วยบรรเทาอาการปวดเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน
CHEST AND SHOULDERS
หน้าอกและไหล่ เป็นจุดที่มักเป็นปัญหาของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศ เนื่องจากต้องนั่งโต๊ะทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จึงทำให้กระดูกสันหลังส่วนคอและไหล่ตึง เราสามารถบริหารกล้ามเนื้อส่วนนี้ได้ ด้วยการประสานนิ้วมือทั้ง 2 ข้างไว้ด้านหลัง แล้วยกแขนขึ้นเพื่อให้รู้สึกตึงที่หน้าอกและไหล่ด้านหน้า ดึงคางลงเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณกระดูกคอ ทำท่านี้ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จะช่วยลดอาการปวดตึงบริเวณหน้าอกและไหล่ได้
WRISTS AND FOREARM
ข้อมือและแขนบริเวณระหว่างข้อศอกกับข้อมือ คืออีกหนึ่งจุดที่พบอาการปวดค่อนข้างบ่อย ซึ่งเกิดจากท่าทางที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการงอไหล่ไปข้างหน้ามากเกินไป ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดลดลง ทำให้เกิดอาการปวด หรือในบางครั้งจะรู้สึกเสียวซ่า หรือชาจากข้อมือลามขึ้นไปที่แขน แนะนำให้บริหารด้วยการประสานฝ่ามือและนิ้วไว้ที่กลางหว่างอก เหมือนกำลังทำท่าพนมมือไหว้ แล้วหันศอกออกจากร่างกายตั้งฉาก 90 องศา จากนั้นค่อยๆ ลดมือลงจนกว่าจะรู้สึกตึงรอบๆ ข้อมือ กดค้างไว้ 5 วินาที ทำซ้ำแบบเดิม 3 เซต
LOWER BACK
หลังส่วนล่าง เป็นบริเวณที่เกิดอาการบ่อยไม่แพ้กัน สาเหตุหลักจากการนั่งในท่าเดิมๆ นานเกินไป ทำให้ส่งผลต่อกล้ามเนื้อบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวให้ได้รับการบาดเจ็บจนเกิดอาการตึงและปวด การยืดด้วยท่า Half Wall Hang จะช่วยลดอาการปวด และป้องกันไม่ให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมได้ วิธีทำง่ายๆ โดยหันหน้าเข้ากำแพง เว้นระยะห่างให้สามารถวางมือแตะผนังได้และยืดแขนให้สุด โน้มตัวลงไปโดยให้หน้าอกขนานกับพื้น สามารถปรับระยะการยืนให้ได้ระยะที่พอดีโดยก้าวถอยหลังเล็กน้อย เพื่อให้ลำตัวตั้งฉากกับสะโพก ขาทั้ง 2 ข้างตั้งตรง นอกจากนี้หลังและแขนต้องอยู่ในแนวเดียวกับหู เมื่อทำท่านี้แล้วจะรู้สึกตึงบริเวณเอ็นร้อยหวาย ที่สำคัญอย่ากดลำตัวให้ต่ำกว่า 90 องศา เพราะจะทำให้เกิดการบาดเจ็บของหลังส่วนล่างแทน ทำท่านี้ค้างไว้ 10 วินาที ทำทั้งหมด 3 เซต
HIP FLEXORS
กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ในการงอสะโพกมาทางด้านหน้า เป็นจุดที่หลายคนมักเกิดอาการบาดเจ็บเช่นกัน เนื่องจากการนั่งนานๆ ทำให้ข้อสะโพกอยู่ในลักษณะงอเป็นเวลานาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อในส่วนของ Iliopsoas หดสั้นลง และเมื่อหดสั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดการตึงตัวขึ้น เมื่อเรามีการเปลี่ยนท่าทางในอิริยาบถใหม่ๆ หลังจากนั้นทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่หดอยู่ ยืดยาวออกไปอีกครั้ง ส่งผลให้เกิดการดึงรั้งที่กระดูกสันหลังส่วนล่าง จึงก่อให้เกิดอาการปวดหลัง ในการคลายกล้ามเนื้อส่วนนี้ ให้เริ่มจากการอยู่ในท่ากึ่งคุกเข่า ให้ขาข้างที่ต้องการยืดก้าวไปทางด้านหลัง จากนั้นถ่ายน้ำหนักมาไว้ที่ขาด้านหน้าและตั้งฉาก 90 องศา ดันสะโพกไปด้านหน้าเล็กน้อย ให้พอรู้สึกตึงบริเวณสะโพกและต้นขา วางมือไว้บนขาที่อยู่ด้านหน้า เพื่อช่วยรักษาบาลานซ์ ยืดเหยียดค้างไว้ 30 วินาที จากนั้นสลับทำอีกข้างหนึ่งในลักษณะเดียวกัน
HAMSTRINGS
เอ็นร้อยหวาย จุดสำคัญที่มักถูกละเลย เพียงเพราะคิดว่าการนั่งคงไม่เกี่ยวอะไรกับเอ็นรอยหวาย แต่รู้หรือไม่ว่าการได้ยืดบริเวณนี้จะช่วยคลายความเครียดของกระดูกสันหลัง หลังจากถูกผูกติดกับเก้าอี้มาทั้งวัน วิธีการยืดก็แสนจะง่ายดาย เพียงยืนตัวตรง แยกเท้าออกให้เท่าความกว้างของสะโพก ก้าวเท้าซ้ายไปด้านหน้า เชิดปลายเท้าขึ้น และกดส้นเท้าลงกับพื้น เหยียดขาให้ตรง เกร็งหน้าท้อง งอเข่าขวาเล็กน้อย วางมือทั้ง 2 ข้างไว้ที่หน้าขาด้านซ้าย หายใจเข้าลึกๆ ค้างไว้ 10 - 30 วินาที จากนั้นสลับทำอีกข้างหนึ่งในลักษณะเดียวกัน
เหล่านี้คือ 5 ท่าเบื้องต้น ในการยืดเส้นเพื่อคลายกล้ามเนื้อด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และสามารถทำได้ทุกวัน เพื่อช่วยลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ และยังช่วยลดอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมได้อีกด้วย ที่สำคัญอย่านั่งติดอยู่กับที่เป็นเวลานานเกินไป หาเวลาผ่อนคลายเสียบ้าง เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดีของตัวคุณเอง
LIFESTYLE
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
http://www.ywellnessbkk.com/
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)