มาถึงวันนี้ หลายคนคงคุ้นเคยกับการ Work From Home กันมากขึ้น หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว เพราะสำหรับคนที่ต้องออกไปทำงานข้างนอกเป็นประจำ การทำงานจากที่บ้านย่อมเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ต้องปรับตัวไม่ใช่น้อย ยังจำความรู้สึกที่ตื่นเช้ามาแล้วไม่ต้องรีบอาบน้ำ ไม่ต้องขับรถ ไม่ต้องแวะซื้อกาแฟ แต่เอาเวลามาหัดใช้โปรแกรมประชุมออนไลน์ได้อยู่เลย
แน่นอนว่าการไม่ต้องออกจากบ้าน ถือเป็นการช่วยลดการเกิดพื้นที่แออัดในที่สาธารณะ ทำให้ลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดได้ดี แถมยังมีผลงานวิจัยมากมายที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพนักงานไม่ต้องเร่งรีบในตอนเช้า รวมไปถึงได้นั่งทำงานภายใต้บรรยากาศที่สงบกว่าออฟฟิศด้วยนั่นเอง
อย่างไรก็ตามทุกอย่างในโลกล้วนมีสองด้านเสมอ ไม่เชื่อลองก้มดูหลักฐานเชิงประจักษ์จากชั้นไขมันที่เพิ่มขึ้นมานั่นสิ ซึ่งนอกจากสุขภาพกายแล้ว หลายคนก็ยังมีปัญหาสุขภาพใจ รวมไปถึงทักษะการเข้าสังคมที่เริ่มจะหายไปอีกด้วย แต่นั่นเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว อย่างที่บอกว่าตอนนี้ Work From Home ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ประสบการณ์ที่ผ่านมาย่อมทำให้เรารับมือกับสิ่งต่างๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น วันนี้ Power จึงมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะทำให้สุขภาพกายและสุขภาพใจของทุกคนแข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วง Work From Home อย่างนี้
กิน
สิ่งหนึ่งที่ตามมาหลังจากต้องอยู่ติดบ้านนานๆ แบบเห็นได้ชัดจนกลายเป็นนิวนอร์มัลเลย คือการใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ บริการอะไรหนอช่างง่าย สะดวกสบาย ดีต่อกระเพาะอาหารเช่นนี้ เมื่อปีที่แล้วหลายคนอาจไม่ได้สังเกตพฤติกรรมนี้ของตัวเองเท่าที่ควร การ Work From Home ประกอบกับการรณรงค์ให้ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น ทำให้มื้ออาหารไม่เป็นมื้ออาหารอีกต่อไป แถมแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ก็มีโปรโมชั่นจัดหนักบังคับให้เราซื้อให้ถึงยอดเพื่อที่จะได้ส่วนลดอีกต่างหาก ใครๆ ก็อยากเป็น Smart Buyer จริงไหม เพราะฉะนั้นเรื่องอาหารการกินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี อย่าให้พลาดเหมือนปีก่อนเชียว
ในเมื่อ Work From Home ทำให้เราขยับตัวน้อยลง ในขณะที่เมื่อก่อนยังมีเดินไปไหนมาไหนอยู่บ้าง ทำให้สิ่งที่กินเข้าไปก็ถูกเบิร์นตามไปด้วย สมการง่ายๆ ตอนนี้ก็เลยต้องเลือกกินกันหน่อย มื้ออาหารจึงควรเน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ ให้มากขึ้น หลีกเลี่ยงไขมัน น้ำตาล และโซเดียม หรือถ้าใครสะดวกสามารถปลูกพืชผักกินเองได้ยิ่งดีใหญ่ เพราะนอกจากจะได้ผักปลอดสารพิษแล้ว ยังได้ขยับร่างกาย รวมถึงสร้างนิสัยการกินที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆ กัน
ดื่ม
การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอสามารถช่วยป้องกัน “ภาวะขาดน้ำ” ของร่างกายได้ ซึ่งสาเหตุหลักอาจจะเกิดจากการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน หรือการประชุมออนไลน์ต่อเนื่องหลายชั่วโมง โดยไม่ได้เตรียมน้ำดื่มเอาไว้ใกล้ๆ ซึ่งภาวะขาดน้ำนั้นสามารถก่อให้เกิดผลเสียตามมามากมายทั้งต่อร่างกายและจิตใจเลยทีเดียว
หากมีภาวะขาดน้ำในระยะเริ่มต้น เราสามารถสังเกตอาการดังต่อไปนี้ ผิวและริมฝีปากจะแห้ง รู้สึกอ่อนเพลีย ง่วงนอน ปวดศีรษะ แต่หากมีภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรงนอกจากจะกระหายน้ำอย่างหนักแล้ว ก็จะมีอาการกระวนกระวาย เศร้าซึม ไม่มีเหงื่อ ไม่ปัสสาวะ ชีพจรเต้นเร็ว จนอาจถึงขั้นหมดสติได้ เพราะฉะนั้นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะน้ำเปล่า ชาหรือกาแฟพอได้ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงน้ำหวาน น้ำอัดลม รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ยิ่งดื่มยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำเข้าไปใหญ่
สมดุล
เมื่อต้อง Work From Home เส้นแบ่งระหว่างบ้านกับที่ทำงานจึงเลือนหายไป เพราะตื่นมาก็สามารถทำงานได้ทันที ในขณะที่พอเลิกงานก็ถึงบ้านเลยเช่นกัน ฉะนั้นหากเป็นไปได้ควรจัดสรรพื้นที่ทำงานเฉพาะให้แยกส่วนกับกิจกรรมอื่นๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงพยายามจัดเวลาพักให้สม่ำเสมอ ทั้งเบรกเช้า พักกลางวัน และเบรกบ่าย รวมไปถึงการหยุดคิดเรื่องงานหลังจากที่หมดวันไปแล้ว ก็จะช่วยทำให้ผ่อนคลายและลดความเครียดได้
อีกสิ่งหนึ่งที่หายไปอย่างเห็นได้ชัดก็คือการติดต่อกับผู้คน หรือที่ในทางจิตวิทยาเรียกว่า Water Cooler Effect นั่นเอง ซึ่งก็เปรียบได้กับช่วงเวลาที่พนักงานเดินไปพักที่ตู้กดน้ำหรือในครัวแล้วยืนคุยกัน โดยที่มีงานวิจัยหลายฉบับยืนยันว่า Water Cooler Effect ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานหรือการออกไอเดียของพนักงานนั้นดีขึ้น เพราะฉะนั้นการติดต่อ สื่อสาร หรือพูดคุยนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด ไม่ว่าจะกับคนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน แม้จะเป็นการพูดคุยผ่านโทรศัพท์หรือซูมก็ยังดี
อย่างไรก็ตามความเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง ทุกคนจึงจำเป็นต้องอาศัยการปรับตัวไปตามสถานการณ์อย่างรู้เท่าทัน วิธีการต่างๆ เหล่านี้สามารถช่วยคลายความเหนื่อยล้า ความเครียด และความกดดันที่เกิดขึ้นได้ เพียงทำต่อเนื่องจนเป็นกิจวัตร ก่อนอื่นพยายามนอนหลับให้สนิทและเพียงพอในทุกๆ วัน แล้วการ Work From Home ครั้งนี้ จะส่งผลดีทั้งต่อการทำงาน ร่างกาย และหัวใจของคุณอย่างแน่นอน
LIFESTYLE
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
https://www.psychologytoday.com/
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)