HappeningHappening 118Number 118POWER Mag

Power Experience: Flavours of Travelling

FLAVOURS OF TRAVELLING หากเปรียบเทียบการเดินทางเป็นอีกหนึ่งรสชาติของชีวิตที่ขาดไม่ได้ สำหรับเพื่อนคู่หูผู้รักการเดินทางและการช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ อย่าง “มาร์ค--ธาวิน พี. เซียวตง” และ “แดง--นันธณา ห่วงรักษ์” คิง เพาเวอร์ ในฐานะเกตเวย์ด่านแรกของนักเดินทางย่อมไม่ต่างจากเครื่องปรุงที่ช่วยชูรสและเติมเต็มทุกการเดินทางของทั้งคู่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น มิตรภาพของมาร์คและแดงเริ่มต้นขึ้นราวกับโชคชะตากำหนดไว้เมื่อ 5 ปีก่อนกลายเป็นความทรงจำที่แสนประทับใจเสมอทุกครั้งที่บอกเล่า “เรารู้จักกันผ่านการแนะนำของลูกค้าของลูกน้องของมาร์คอีกที ด้วยความที่เรามีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน ชอบกิน ชอบเที่ยว ชอบช้อปปิ้งเหมือนกัน ยิ่งคุยเลยยิ่งคลิก” มาร์คเปิดฉากเล่าถึงเส้นทางมิตรภาพกับเพื่อนรุ่นพี่อย่างออกรส ด้วยไลฟ์สไตล์ที่คล้ายคลึงกันอย่างที่เพื่อนรุ่นน้องบอกเล่ามานี้เอง ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่หูนักชิม นักเดินทาง และนักช้อป ที่พร้อมตะลุยไปไหนไปด้วยกันตลอดเวลา “เวลามาร์คจัดทริปไปเที่ยวกับก๊วนเพื่อน ถ้าเป็นทริปที่เน้นช้อปปิ้ง ต้องมีพี่แดงอยู่ในลิสต์” มาร์คเล่าด้วยใบหน้าอมยิ้ม ก่อนจะเผยถึงทริปตะลุยเยอรมนีล่าสุด ที่ทั้งคู่แท็กทีมกับกลุ่มเพื่อนสนิทอีก 6 คนไปเปิดบันทึกหน้าใหม่ให้กับชีวิต “เรียกว่าเป็นอีกทริปที่ประทับใจก็ได้นะ เพราะได้ไปกับกลุ่มเพื่อนที่สนิทรู้ใจกัน ไม่ง่ายเลยนะกว่าทริปแบบนี้จะเกิดขึ้น ใช้เวลาเป็นปี กว่าทุกคนจะเคลียร์คิวได้ลงตัว แต่ไปแล้วคุ้มค่าจริงๆ ทั้งเที่ยวทั้งช้อปกับคนรู้ใจ จำได้ว่าขากลับรถตู้ที่นั่งมาแทบล้น เพราะสัมภาระแต่ละคนเยอะมาก” มาร์คบอกเล่าถึงทริปประทับใจ โดยมีแดงเป็นกองเสริมอยู่ข้างๆ ไหนๆ ก็ทราบกันแล้วว่า ทั้งคู่เป็นสายช้อปกระจาย งานนี้เลยถือโอกาสถามต่อว่า ใครช้อปเก่งกว่ากัน “เห็นแบบนี้พี่แดงช้อปเก่งมากนะ” มาร์คถือโอกาสแซวเพื่อนรุ่นพี่ก่อนที่แดงจะขอชี้แจง “เป็นลูกค้าของ คิง เพาเวอร์ มานานมาก ตั้งแต่สมัยยังอยู่ที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เห็นการเติบโตและการพัฒนาของ คิง เพาเวอร์ ที่ไม่เคยหยุดนิ่งมาตลอด ทุกครั้งที่เดินทาง ถ้าไม่ได้เผื่อเวลาช้อปก่อนขึ้นเครื่องมากนัก ก็ต้องมาแวะที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ก่อนเสมอ เพื่อจะได้เดินช้อปแบบชิลล์ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา เดี๋ยวนี้แทบไม่ไปช้อปปิ้งที่ห้างแล้ว เวลาจะซื้อเครื่องสำอางหรือสินค้าแบรนด์เนม ก็มาซื้อที่ คิง เพาเวอร์เพราะเข้ามาแล้วรู้สึกอบอุ่น น้องๆ พนักงานค่อนข้างเป็นมิตร ดูแลดี จะคอยแนะนำว่ามีอะไรมาใหม่” แดงบอกเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อ คิง เพาเวอร์ จนอดใจไม่ไหวต้องชวนเพื่อนรุ่นน้องมาเป็นสมาชิกของ คิง เพาเวอร์ ด้วยกัน ขณะที่มาร์คเสริมว่า ทุกครั้งที่เดินทาง เพื่อให้สมกับเป็นการเปิดฉากการพักผ่อนอย่างแท้จริง เขาจะเผื่อเวลามาถึงสนามบินก่อนเวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาสำหรับช้อปปิ้ง อัพเดตไอเท็มชิ้นโปรด ทั้งในโซนเครื่องสำอางและสินค้าแบรนด์เนม “ทุกครั้งที่เดินทาง ต้องแวะ คิง เพาเวอร์ เสมอ ที่พลาดไม่ได้คือ โซนเครื่องสำอางและสินค้าแบรนด์เนม เชื่อไหมว่า มีหลายไอเท็มที่หาซื้อจากช็อปในเมืองไม่ได้ แต่มาได้ที่ คิง เพาเวอร์ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาแบรนด์ Chanel หลายชิ้นเลยที่มาร์คได้ไปจากช็อปในสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนเครื่องสำอางกับน้ำหอมก็ราคาดี แถมมั่นใจได้ในคุณภาพสินค้า ไม่จำเป็นต้องไปขนจากเมืองนอกให้เป็นภาระ มาทุกครั้งไม่เคยพลาดต้องได้ของติดไม้ติดมือ บางครั้งที่ไม่ได้เดินทางเอง ยังต้องฝากคนรู้จักซื้อ” ประสบการณ์พิเศษนี้เอง กลายเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทั้งคู่แบ่งปันให้แก่กัน สำหรับมาร์คและแดง คิง เพาเวอร์ จึงเป็นเหมือนส่วนผสมที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางทุกครั้งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น “ขอบคุณ คิง เพาเวอร์ ที่ทำให้การเดินทางของเรามีรสชาติ” มาร์คกล่าวทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้ม
Editor
20 December 2017
FlashFlash 118New ItemsNumber 118POWER Mag

New Items: Beauty Update

BEAUTY UPDATE บิวตี้ไอเท็มชิ้นใหม่ล่าสุดจากหลากหลายแบรนด์ดัง ที่จะช่วยให้คุณสวย โดดเด่นกว่าใครๆ ตลอดฤดูกาลนี้ PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS LA MER Genaissance de La Mer The Infused Lotion โลชั่นสูตรน้ำผสานเนื้อครีม พร้อมส่วนผสมจากท้องทะเลที่ผ่านกระบวนการหมักอันอุดมด้วยคุณประโยชน์ ประสิทธิภาพสูง ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวดูมีชีวิตชีวา (150ml 8,500 Baht) SISLEY Black Rose Skin Infusion Cream ครีมบำรุงที่ทรงประสิทธิภาพในการปรนนิบัติผิวให้ฟื้นคืนสู่ความฉ่ำชื่น ดูเอิบอิ่ม เปล่งประกายเนียนใสยิ่งขึ้น (50ml 5,350 Baht) SULWHASOO Evenfair Perfecting Cushion Duo Limited Edition No. 13 and No. 21 ผลิตภัณฑ์ลิมิเต็ด เอดิชั่นที่ออกแบบตลับมาเป็นพิเศษในแนวคิด “นกสีทอง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความสุข ที่จะนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง (3,060 Baht) SHU UEMURA Nutri: Nectar Gentle Cleansing Oil in Emulsion เคล็นซิ่งออยล์ที่รังสรรค์ขึ้น เพื่อการทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมมอบความสดชื่นด้วยกลิ่นหอมจากพืชพรรณนานา (150ml 1,275 Baht / 400ml 2,975 Baht) URBAN DECAY Naked Heat Palette อายแชโดว์ 12 เฉดสีใหม่ที่จะมอบเสน่ห์ให้กับดวงตาคู่สวยด้วยสีพื้นฐานจากเฉดสีอำพัน ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาลอบอุ่น สีส้มร้อนแรง และสีน้ำตาลเข้มที่ดูหรูหรา (2,125 Baht / Available only at Suvarnabhumi Airport, Srivaree and Phuket Downtown) LANEIGE X YCH Skin Veil Base Dot Cushion Duo No. 40 Light Purple and 60 Light Green Speed Tone-up Cushion เพื่อปรับสีผิวให้เรียบเนียน อุดมไปด้วย Water Bank Essence ที่ช่วยให้ผิวสว่างสดใสยิ่งขึ้น (1,835 Baht) NARS Velvet Matte Foundation Stick รองพื้นชนิดแท่งเนื้อแมตต์บางเบา เกลี่ยง่าย มอบสีผิวสวยและการปกปิดอย่างไร้ที่ติ (1,485 Baht / Available in 15 Shades / Available only at Suvarnabhumi Airport, Srivaree and Rangnam) ESTÉE LAUDER Pure Color Envy Lash Multi Effects and Waterproof Multi Effects…
Editor
20 December 2017
Fashion InsiderFlashFlash 118Number 118POWER Mag

Fashion Insider: Revolution Step

REVOLUTION STEP Stuart Weitzman แบรนด์รองเท้าชั้นนำสัญชาติอเมริกัน ที่สร้างชื่อเสียงจากรองเท้าสั่งทำสำหรับเซเลบริตี้แถวหน้า สู่แบรนด์รองเท้าระดับสากลที่มีวางขายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เซ็กซี่ หรูหรา และเย้ายวนอย่างไม่เหมือนใคร STORY TAWAN KONKAEW PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1941 Stuart A. Weitzman ได้ลืมตาขึ้นดูโลกในครอบครัวช่างทำรองเท้าผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนั้นไม่นานนัก พ่อของเขา Seymour Weitzman และพี่ชายคนโต Warren ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตรองเท้าขึ้นที่เมือง Haverhill มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ภายใต้ชื่อเดียวกับบิดาของเขา นั่นก็คือ “Seymour Shoes” ธุรกิจครอบครัวดำเนินเรื่อยมาเป็นอย่างดี จนลูกชายคนเล็ก Stuart Weitzman ผู้ฉายแววความสามารถด้านการออกแบบและไอเดียที่ไม่เหมือนใคร ได้เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้านักออกแบบ ซึ่งขณะนั้นเขาอายุเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้นเอง การผสานพลังทางด้านการออกแบบและฝีมือที่ดีเยี่ยมนี้เอง ทำให้บริษัททำรองเท้าของครอบครัวนี้ไปเตะตากลุ่มนักธุรกิจในสเปน จนมาขอซื้อบริษัทไปในช่วงปีค.ศ. 1971 เนิ่นนานกว่า 20 ปีหลังจากนั้น Stuart Weitzman ทนคิดถึงงานออกแบบที่เขารักไม่ไหว จึงตัดสินใจรวบรวมเงินแล้วซื้อบริษัทอันเป็นที่รักของพ่อกลับคืนมาอยู่ภายใต้การบริหารงานของตัวเองในปีค.ศ. 1994 ณ ตอนนั้นเขาดึงเอาไอเดียการออกแบบรองเท้าที่ใช้จุดขายว่าหนึ่งเดียวในโลกมาใช้ เพราะเขาได้ออกแบบรองเท้าคู่พิเศษมากมายสำหรับดาราสาวใส่เยื้องย่างไปงานพรมแดง ด้วยวัสดุอย่างหนังจระเข้ ไวนิล หนังแกะ รวมไปจนถึงวัสดุแสนพิเศษอย่างทองคำ 24 กระรัต และด้วยความพิเศษเช่นนี้เอง รายชื่อของผู้เลือกสวมใส่ผลงานการออกแบบของเขาจึงมีแต่เซเลบริตี้เกรดเอ อย่าง Kate Middleton, Emma Watson, Jennifer Lawrence และอีกหลายต่อหลายคน ส่วนอีกรุ่นที่นำเสนอออกมาในหน้าร้อนปีถัดมาก็คือ รองเท้ากลาดิเอเตอร์ส้นแบนที่มีสายพันขึ้นมาจนถึงหัวเข่า ความสำเร็จของแบรนด์ Stuart Weitzman ทวีมากยิ่งขึ้นในปีค.ศ. 2014 เมื่อเขาได้นำเสนอรองเท้าบู๊ตส้นสูง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนถูกเรียกว่า The “It” Shoes ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียว เซ็กซี่ แต่ก็ยังคงสวมใส่สบาย ไม่แพ้ความดูดีของหน้าตา ทำให้รองเท้าคู่นี้ไต่อันดับขึ้นสู่เทรนด์แฟชั่นสุดฮิตอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกรุ่นที่นำเสนอออกมาในหน้าร้อนปีถัดมาก็คือ รองเท้ากลาดิเอเตอร์ส้นแบนที่มีสายพันขึ้นมาจนถึงหัวเข่า ซึ่งช่วยปรับลุคของเสื้อผ้าในวันธรรมดาๆ ให้ดูพิเศษขึ้นอย่างทันตา และแน่นอนว่ารองเท้าคู่นี้ก็ฮิตติดลมบนไปอีกรุ่นหนึ่ง ดูได้จากลิสต์รายชื่อของคนเลือกใส่ ทั้ง  Kim Kardashian ไปจนถึงดาราและเจ้าของแบรนด์แฟชั่นสุดคูลอย่างฝาแฝด Olsen เป็นต้นด้วยความสำเร็จเหล่านี้เอง ในปีค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา บริษัทเครื่องหนังยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่าง Coach จึงเข้าเจรจาเพื่อขอซื้อแบรนด์รองเท้าสุดฮ็อตแบรนด์นี้ ภายใต้เงื่อนไขว่า Stuart Weitzman ยังคงดำรงตำแหน่งครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ และประธานบริษัท ตามเดิม ซึ่งการจับมือกันครั้งนี้ Stuart Weitzman ได้กล่าวว่า เหมือนเป็นการเสริมกำลังทางการตลาด และช่วยปลดปล่อยศักยภาพที่มีอยู่ของแบรนด์ไปสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น โดยมีความเชี่ยวชาญในการขายและประสบการณ์ในตลาดโลกอันยาวนานของ Coach ช่วยหนุนหลัง รองเท้าบู๊ตคู่เด่นที่มีหลากหลายความยาวตั้งแต่ระดับข้อเท้าไปจนถึงเหนือหัวเข่า ผลิตด้วยวัสดุหรูหราอย่างหนังกลับ ผ้าไหมซาติน หนังแก้ว สำหรับ Fall/Winter 2017 นี้ Stuart Weitzman เลือกนำเสนอภาพแคมเปญโฆษณาของนางแบบสาวชื่อดัง Gigi Hadid ในภาพถ่ายขาวดำแสนมั่นใจ ผลงานการกดชัตเตอร์ของช่างภาพชื่อดัง Mario Testino ที่เลือกนำเสนอตัวตนที่มุ่งมั่น แข็งแรง ผ่านจังหวะการก้าวกระโดดและท่าทางที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท่าออกกำลังกายของ Gigi แต่แน่นอนว่า ทุกท่านั้นต้องทำบนรองเท้าคู่สวยจากคอลเลคชั่นล่าสุด ซึ่งเป็นรองเท้าบู๊ตคู่เด่นที่มีหลากหลายความยาวตั้งแต่ระดับข้อเท้าไปจนถึงเหนือหัวเข่า ผลิตด้วยวัสดุหรูหราอย่างหนังกลับ ผ้าไหมซาติน หนังแก้ว ผ้ายกดอก…
Editor
20 December 2017
Fashion InsiderFlashFlash 118Highlight 118Number 118POWER Mag

Fashion Insider : The True Genius

THE TRUE GENIUS Alexander McQueen แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติอังกฤษที่ถ่ายทอดพลังความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นเอกลักษณ์ของดีไซเนอร์สุดอัจฉริยะ ด้วยไอเดียการดึงเอาความงามจากธรรมชาติรอบตัว สู่ผลงานการออกแบบที่ตราตรึงใจ STORY TAWAN KONKAEW PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS อะไรคือความทรงจำที่คุณมีต่อแบรนด์นี้ -- รองเท้าส้นสูง 10 นิ้วใน MV ของ Lady Gaga ผ้าพันคอลายหัวกะโหลกที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง หรือชุดแต่งงานชวนฝันของ Catherine Middleton -- เหล่านี้ล้วนมาจากตัวตนอันแตกต่างของแบรนด์ดังอย่าง Alexander McQueen ทั้งสิ้น Lee Alexander McQueen ผู้ซึ่งสร้างตำนานและเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่น เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1969 ในลอนดอน เขาคือเด็กชายชนชั้นกลางในครอบครัวธรรมดาๆ พ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นเพียงคนขับรถ McQueen เติบโตขึ้นมาในบ้านเล็กๆ ในเขตลอนดอนตะวันออก สำหรับอนาคตในวงการแฟชั่นชั้นสูงนั้น ดูจะห่างไกลจากความเป็นอยู่ในอดีตของเขาอย่างยิ่ง McQueen สร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการแสดงผลงานแฟชั่นผ่านมุมมองที่แตกต่างไม่เหมือนใคร แต่เมื่ออายุย่างเข้า 16 ปี McQueen ได้ตัดสินใจที่จะอุทิศตัวเองเพื่องานแฟชั่น เขาลาออกจากโรงเรียนและเข้าฝึกงานที่ร้านตัดสูทแบบเทเลอร์ Anderson & Sheppard ที่นั่นเองทำให้เขาได้เรียนรู้เทคนิคและวิชาการตัดเย็บอันซับซ้อน ที่กลายมาเป็นหนึ่งในรากฐานของผลงานการออกแบบของเขาในยุคต่อๆ มา เมื่ออายุ 21 ปี McQueen ตัดสินใจย้ายไปหาประสบการณ์ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยทำงานกับ Romeo Gigli ดีไซเนอร์ชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าzมากในช่วงทศวรรษ 1980 ไม่นานหลังจากนั้น McQueen ได้หวนกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา และสำเร็จปริญญาโทด้านการออกแบบแฟชั่นจาก Central Saint Martins สถาบันการออกแบบเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษและติดอยู่ในระดับท็อป 5 ของโลกด้วยMcQueen สร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการแสดงผลงานแฟชั่นผ่านมุมมองที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ทำให้การแสดงแฟชั่นโชว์ของเขาเป็นที่ติดตามและสร้างกระแสกระเพื่อมทั้งในวงการแฟชั่นและวงสังคมอย่างกว้างขวางทุกครั้งที่โชว์ของเขาเสร็จสิ้น ในปีค.ศ. 1996 McQueen ถูกว่าจ้างให้เป็นดีไซเนอร์ประจำ Givenchy Haute Couture ที่นี่เองเขาได้เปลี่ยนสไตล์ดั้งเดิมของแบรนด์ไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งได้รับการต่อว่าทางด้านลบอย่างมากจากกลุ่มลูกค้าเดิมของ Givenchy เขาจึงถูกไล่ออกโดยผู้ก่อตั้งกลุ่ม LVMH และดีไซเนอร์ดั้งเดิมของแบรนด์ Hubert de Givenchy แม้ว่าตัวผู้ก่อตั้งจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ดีเอ็นเอของแบรนด์ที่เข้มแข็งก็ได้รับการสานต่อภายใต้วิสัยทัศน์อันลึกซึ้งและเข้าใจผู้หญิงมากยิ่งขึ้น ในแบบฉบับของดีไซเนอร์สาว Sarah Burton แม้กระนั้น McQueen ยังคงอยู่ในโลกแฟชั่นและได้รับโอกาสอันเนื่องมาจากความอัจฉริยะของเขาเรื่อยมา ในปีค.ศ. 2000 แบรนด์ที่ตั้งตามชื่อของเขา Alexander McQueen ได้ถูก Gucci Group ซื้อสิทธิ์ควบคุมดูแลแบรนด์ให้อยู่ในบรรทัดฐาน ตลอดจนดูแลแผนธุรกิจ ซึ่งหมายรวมถึง การปรากฏตัวตามงานอีเวนต์ทั่วโลก การนำเสนอ ไลน์น้ำหอม รวมไปถึงผลงานการร่วมออกแบบกับแบรนด์รองเท้ากีฬาชื่อดัง Puma ที่สร้างความสำเร็จทางด้านภาพลักษณ์และยอดขายอย่างถล่มทลาย จนเป็นที่มาของการแตกแบรนด์ McQ แบรนด์น้องใหม่สำหรับผู้หญิงและผู้ชายที่วัยรุ่นกว่าเดิม และราคาเป็นมิตรมากยิ่งขึ้นในปีค.ศ. 2006ในปีค.ศ. 2003 McQueen ได้รับรางวัลนักออกแบบนานาชาติแห่งปี จากสภานักออกแบบแฟชั่นของอเมริกา และยังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ CBE (Commander of the Most Excellent Order of the British Empire) อีกด้วย ในช่วงปลายทศวรรษ 2000 แบรนด์ Alexander…
Editor
20 December 2017
HappeningHappening 118Number 118Power HighlightPOWER Mag

Power Highlight : Explore Endlessly at King Power Rangnam

EXPLORE END LESSLY AT KING POWER RANGNAM เป้าหมายสูงสุดของนักเดินทาง คือ การพาตัวเองไปค้นพบสิ่งอัศจรรย์มากมายที่ซ่อนอยู่บนโลกใบนี้ “คิง เพาเวอร์” ในฐานะประตูบานแรกที่ต้อนรับนักเดินทางสู่ทุกจุดหมายดั่งใจฝัน จึงมาพร้อมมิติใหม่ที่จะพาทุกท่านไปตื่นตาตื่นใจ สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยค้นพบ กับสิ่งอัศจรรย์จากทั่วโลกที่คัดสรรและรวบรวมมาไว้ ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โฉมใหม่ เพียงสถานที่เดียว รับรองว่ามาแล้วจะลืมดิวตี้ ฟรีแบบเดิมๆ ที่เคยรู้จักไปเลยประสบการณ์เหนือระดับที่ คิง เพาเวอร์ ตั้งใจรังสรรค์ขึ้นนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การช้อปปิ้ง แต่ยังเตรียมมอบประสบการณ์และรสชาติแห่งความอัศจรรย์จากทั่วโลกที่รวมมาไว้ในสถานที่เดียว เพื่อให้ทุกท่านได้รับความเพลิดเพลิน ทั้งจากประสบการณ์การช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายแบรนด์ดัง ประสบการณ์ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยโชว์ระดับโลกตระการตาทุกเทคนิคแสง สี เสียง พร้อมกับเปิดประสบการณ์มื้ออาหารแสนอร่อยทั้งจากทั่วไทยและทั่วโลก รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับ Watches ศูนย์รวมความยอดเยี่ยมทางวิศวกรรมที่คนรักนาฬิกามองหา ที่สุดแห่งการคัดสรร เมื่อนาฬิกาไม่เพียงเป็นเครื่องบอกเวลา หากแต่ยังเป็นของสะสมอันทรงคุณค่า ที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและเสน่ห์ของกลไกอันน่าทึ่ง Fashion สินค้าแฟชั่น World Luxury หลากหลายแบรนด์ชั้นนำจากทุกมุมโลก ถูกคัดสรรรวบรวมไว้บนพื้นที่สีทองเปล่งประกาย Entertainments ดื่มด่ำไปกับระบำสายน้ำ ประสบการณ์ใหม่ที่องค์ประกอบของแสง สี เสียง ได้ถูกสร้างสรรค์มาโดยเฉพาะ ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดงและนิทรรศการชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อให้ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กลายเป็นจุดหมายที่เติมเต็มสีสันและแรงบันดาลใจ Street Foods คัดสรรรสชาติหลากหลายจากร้าน Street Foods ชื่อดังทั่วไทย ยกถนนทั่วกรุงมารวมไว้ในที่เดียว ให้คนรักอาหารไทยได้สัมผัสเมนูอร่อยขึ้นชื่อ ที่ถูกใจเหล่านักชิมทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากนานาชาติ Sunglasses รวบรวมหลากแบรนด์แว่นกันแดดชั้นนำ ทั้งรุ่นยอดฮิตและสไตล์นำกระแส ส่งตรงจากลุคบนรันเวย์ที่น่าหลงใหล มารวมกันไว้บนพื้นที่กว้างขวาง ให้เลือกสรรไอเท็มที่สะท้อนสไตล์ได้ไม่รู้จบ Perfumes & Cosmetics สัมผัสถึงกลิ่นหอมอบอวลของเครื่องสำอางและน้ำหอมชื่อดังจากทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมด้วยบริการให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจแต่ละความต้องการอย่างลึกซึ้ง Thai Souvenir & Handicrafts จากเครื่องถักทอไทยโบราณสู่การออกแบบพื้นที่ของศูนย์รวมของฝากที่แฝงไว้ด้วยภูมิปัญญาไทย รวบรวมงานฝีมืออันประณีตบรรจง เรียงร้อยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ สะท้อนวัฒนธรรมไทยอันงดงาม ผ่านสินค้าไทยสุดละเมียดละไมที่คนทั่วโลกต่างชื่นชม Local & International Eatery แหล่งรวมวัตถุดิบชั้นเลิศและเครื่องปรุงอาหารไทยรสจัดจ้าน รังสรรค์เป็นพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและเชฟชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย พร้อมรวบรวมร้านอาหารนานาชาติ พิเศษด้วย Exclusive Menu สัมผัสรสชาติแห่งประสบการณ์ที่แตกต่าง
Editor
20 December 2017
HappeningHappening 118Number 118POWER Mag

Power Exclusive : The New King Power Rangnam

พบกับ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โฉมใหม่” ที่พร้อมมอบความเพลิดเพลินให้ทุกท่านได้มากไปกว่าการช้อปปิ้งในดิวตี้ ฟรี กับการเป็น “Lifestyle Destination” แห่งใหม่ของเมืองไทย พื้นที่ของ Brand Boutiques รวบรวมบูติคแบรนด์เนมหรูชั้นนำระดับโลก มาเอาใจผู้ชื่นชอบสินค้าแฟชั่นและสินค้าลักชัวรี่ ไม่ว่าจะเป็น Alexander McQueen, Armani Exchange, Bally, Bottega Veneta, Burberry, Calvin Klein Jeans, Coach, Emporio Armani, Gucci, Lacoste, Michael Kors, Moncler, Prada, Salvatore Ferragamo, Stuart Weitzman หลังจากปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ ถึงตอนนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมเปิดให้บริการ “คิง เพาเวอร์ รางน้ำ  โฉมใหม่” อย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป โดยได้เนรมิตพื้นที่กว่า 14,000 ตารางเมตร เพื่อมอบความสะดวกสบายให้ลูกค้าด้วยการคัดสรรและรวบรวมสินค้า ประสบการณ์ และรสชาติแห่งความอัศจรรย์จากทั่วโลกมาไว้ด้วยกันในสถานที่เดียว เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งแบรนด์ดัง ประสบการณ์ความบันเทิงด้วยโชว์ระดับโลก ตระการตาทุกเทคนิค แสง สี เสียง เต็มรูปแบบ พลาดไม่ได้กับน้ำพุที่พุ่งทะยานได้สูงถึง 6 เมตร ตามจังหวะดนตรี ด้วยระบบแสง สี เสียง ระดับโลก และสัมผัสประสบการณ์มื้ออาหารแสนอร่อยทั้งจากทั่วไทยและทั่วโลก เริ่มจากชั้น 1 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ Brand Boutiques รวบรวมบูติคแบรนด์เนมหรูชั้นนำระดับโลกมาเอาใจผู้ชื่นชอบสินค้าแฟชั่นและสินค้าลักชัวรี่ ไม่ว่าจะเป็น Alexander McQueen, Armani Exchange, Bally, Bottega Veneta, Burberry, Calvin Klein Jeans, Coach, Emporio Armani, Gucci, Lacoste,  Michael Kors, Moncler, Prada, Salvatore Ferragamo, Stuart Weitzman, Tod’s, Valentino, Vilebrequin, Yves Saint Laurent ฯลฯขณะที่อีกด้านหนึ่งของชั้นนี้จัดให้เป็น Sunglasses Store แหล่งรวมแว่นกันแดดแบรนด์ดังหลากสไตล์จากทั่วทุกมุมโลก การตกแต่งในชั้นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากทองคำ วัสดุซึ่งเปรียบได้ดั่งสัญลักษณ์แห่งความร่ำรวย สง่างาม ในหลายวัฒนธรรม รวมทั้งในวัฒนธรรมไทย ซึ่งได้ปรากฏการแต่งแต้มทองคำบนลวดลายต่างๆ ในศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยมากมายจนกลายเป็นความงดงามเฉพาะตัว นักออกแบบได้นำจุดเด่นนี้มาประยุกต์ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการนำหินเทียมและเส้นทองมาใช้ในการประดับตกแต่งเสา ขณะเดียวกับที่ได้เพิ่มความหรูหราให้มากขึ้นด้วยการปูพื้นหินอ่อน White Calacatta และ White Varagus อันเลื่องชื่อเมื่อขึ้นมายังชั้น 2 ผู้มาเยือนจะได้สะดุดตากับพื้นที่ซึ่งมีการตกแต่งอย่างสร้างสรรค์โดยใช้รูปทรงกลมซ้อนเหลี่ยมสะท้อนถึงโลกแห่งเรือนเวลา ที่ตรงนี้ คือ The Watch & Jewellery Collection แหล่งรวมนาฬิกาหรูแบรนด์ดังจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่นาฬิกาหรูระดับไฮเอ็นด์ที่มีความงามคลาสสิก ไปจนถึงเรือนเวลาสุดก้าวล้ำที่มีความสลับซับซ้อนของกลไก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Baume & Mercier, Blancpain, Breguet, Breitling, Bulgari, Chopard, Gucci,…
Editor
20 December 2017
BeautyBeauty 118Beauty Best BuyBest BuyNumber 118POWER Mag

Beauty Best Buy: Pure Luxury

น้ำหอมกลิ่นหรูหราแต่บางเบา มาพร้อมกับ ครีมและเซรั่มคืนความอ่อนเยาว์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับเนื้อสัมผัสอันละมุนละไมได้อย่างลงตัว
Editor
19 December 2017
BeautyBeauty 118Best BuyGrooming Best BuyNumber 118

Grooming Best Buy: A Bright Future

ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบสเปรย์ ทั้งกันแดด น้ำหอม และโลชั่นมิสต์บำรุงผิว เป็นทางเลือกแสนชาญฉลาดสำหรับชายหนุ่มยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว
Editor
19 December 2017
BeautyBeauty 118FeatureGrooming StoryNumber 118

Grooming Story: For Your Eyes Only

ค้นหาสาเหตุแห่งปัญหาผิวรอบดวงตา เพื่อจะได้สรรหาผลิตภัณฑ์ดีๆ มาช่วยแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาสำหรับผู้ชายได้อย่างถูกต้องและตรงจุด
Editor
19 December 2017
Behind the SceneFashionFashion 118Number 118POWER Mag

Behind the Scene: In the Sunny Warmth

เอ่ยชื่อพระเอกสุดติสต์ “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” หลายคนอาจคุ้นเคยกับมาดนิ่งๆ หล่อแบบเซอร์ๆ ปนฮานิดๆ จากคาแร็กเตอร์ที่เขามักได้รับในการแสดง แต่ซันนี่ในมาดนายแบบวันนี้ เขากลับดูหล่อเน้ียบ เป็นผู้ชายที่ดูน่าค้นหาขึ้นมาถนัดตา สมกับเป็นฉบับ Men Issue เพราะซันนี่คนเดิมถูกจับแปลงโฉมจนไม่เหลือเค้าหนุ่มเซอร์ท่ีคุ้นตา
Editor
19 December 2017