Fashion InsiderFlashFlash 118Number 118POWER Mag

Fashion Insider: Revolution Step

REVOLUTION STEP Stuart Weitzman แบรนด์รองเท้าชั้นนำสัญชาติอเมริกัน ที่สร้างชื่อเสียงจากรองเท้าสั่งทำสำหรับเซเลบริตี้แถวหน้า สู่แบรนด์รองเท้าระดับสากลที่มีวางขายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เซ็กซี่ หรูหรา และเย้ายวนอย่างไม่เหมือนใคร STORY TAWAN KONKAEW PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1941 Stuart A. Weitzman ได้ลืมตาขึ้นดูโลกในครอบครัวช่างทำรองเท้าผู้เชี่ยวชาญ หลังจากนั้นไม่นานนัก พ่อของเขา Seymour Weitzman และพี่ชายคนโต Warren ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตรองเท้าขึ้นที่เมือง Haverhill มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ภายใต้ชื่อเดียวกับบิดาของเขา นั่นก็คือ “Seymour Shoes” ธุรกิจครอบครัวดำเนินเรื่อยมาเป็นอย่างดี จนลูกชายคนเล็ก Stuart Weitzman ผู้ฉายแววความสามารถด้านการออกแบบและไอเดียที่ไม่เหมือนใคร ได้เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้านักออกแบบ ซึ่งขณะนั้นเขาอายุเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้นเอง การผสานพลังทางด้านการออกแบบและฝีมือที่ดีเยี่ยมนี้เอง ทำให้บริษัททำรองเท้าของครอบครัวนี้ไปเตะตากลุ่มนักธุรกิจในสเปน จนมาขอซื้อบริษัทไปในช่วงปีค.ศ. 1971 เนิ่นนานกว่า 20 ปีหลังจากนั้น Stuart Weitzman ทนคิดถึงงานออกแบบที่เขารักไม่ไหว จึงตัดสินใจรวบรวมเงินแล้วซื้อบริษัทอันเป็นที่รักของพ่อกลับคืนมาอยู่ภายใต้การบริหารงานของตัวเองในปีค.ศ. 1994 ณ ตอนนั้นเขาดึงเอาไอเดียการออกแบบรองเท้าที่ใช้จุดขายว่าหนึ่งเดียวในโลกมาใช้ เพราะเขาได้ออกแบบรองเท้าคู่พิเศษมากมายสำหรับดาราสาวใส่เยื้องย่างไปงานพรมแดง ด้วยวัสดุอย่างหนังจระเข้ ไวนิล หนังแกะ รวมไปจนถึงวัสดุแสนพิเศษอย่างทองคำ 24 กระรัต และด้วยความพิเศษเช่นนี้เอง รายชื่อของผู้เลือกสวมใส่ผลงานการออกแบบของเขาจึงมีแต่เซเลบริตี้เกรดเอ อย่าง Kate Middleton, Emma Watson, Jennifer Lawrence และอีกหลายต่อหลายคน ส่วนอีกรุ่นที่นำเสนอออกมาในหน้าร้อนปีถัดมาก็คือ รองเท้ากลาดิเอเตอร์ส้นแบนที่มีสายพันขึ้นมาจนถึงหัวเข่า ความสำเร็จของแบรนด์ Stuart Weitzman ทวีมากยิ่งขึ้นในปีค.ศ. 2014 เมื่อเขาได้นำเสนอรองเท้าบู๊ตส้นสูง ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนถูกเรียกว่า The “It” Shoes ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียว เซ็กซี่ แต่ก็ยังคงสวมใส่สบาย ไม่แพ้ความดูดีของหน้าตา ทำให้รองเท้าคู่นี้ไต่อันดับขึ้นสู่เทรนด์แฟชั่นสุดฮิตอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกรุ่นที่นำเสนอออกมาในหน้าร้อนปีถัดมาก็คือ รองเท้ากลาดิเอเตอร์ส้นแบนที่มีสายพันขึ้นมาจนถึงหัวเข่า ซึ่งช่วยปรับลุคของเสื้อผ้าในวันธรรมดาๆ ให้ดูพิเศษขึ้นอย่างทันตา และแน่นอนว่ารองเท้าคู่นี้ก็ฮิตติดลมบนไปอีกรุ่นหนึ่ง ดูได้จากลิสต์รายชื่อของคนเลือกใส่ ทั้ง  Kim Kardashian ไปจนถึงดาราและเจ้าของแบรนด์แฟชั่นสุดคูลอย่างฝาแฝด Olsen เป็นต้นด้วยความสำเร็จเหล่านี้เอง ในปีค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา บริษัทเครื่องหนังยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่าง Coach จึงเข้าเจรจาเพื่อขอซื้อแบรนด์รองเท้าสุดฮ็อตแบรนด์นี้ ภายใต้เงื่อนไขว่า Stuart Weitzman ยังคงดำรงตำแหน่งครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ และประธานบริษัท ตามเดิม ซึ่งการจับมือกันครั้งนี้ Stuart Weitzman ได้กล่าวว่า เหมือนเป็นการเสริมกำลังทางการตลาด และช่วยปลดปล่อยศักยภาพที่มีอยู่ของแบรนด์ไปสู่ระดับสากลมากยิ่งขึ้น โดยมีความเชี่ยวชาญในการขายและประสบการณ์ในตลาดโลกอันยาวนานของ Coach ช่วยหนุนหลัง รองเท้าบู๊ตคู่เด่นที่มีหลากหลายความยาวตั้งแต่ระดับข้อเท้าไปจนถึงเหนือหัวเข่า ผลิตด้วยวัสดุหรูหราอย่างหนังกลับ ผ้าไหมซาติน หนังแก้ว สำหรับ Fall/Winter 2017 นี้ Stuart Weitzman เลือกนำเสนอภาพแคมเปญโฆษณาของนางแบบสาวชื่อดัง Gigi Hadid ในภาพถ่ายขาวดำแสนมั่นใจ ผลงานการกดชัตเตอร์ของช่างภาพชื่อดัง Mario Testino ที่เลือกนำเสนอตัวตนที่มุ่งมั่น แข็งแรง ผ่านจังหวะการก้าวกระโดดและท่าทางที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท่าออกกำลังกายของ Gigi แต่แน่นอนว่า ทุกท่านั้นต้องทำบนรองเท้าคู่สวยจากคอลเลคชั่นล่าสุด ซึ่งเป็นรองเท้าบู๊ตคู่เด่นที่มีหลากหลายความยาวตั้งแต่ระดับข้อเท้าไปจนถึงเหนือหัวเข่า ผลิตด้วยวัสดุหรูหราอย่างหนังกลับ ผ้าไหมซาติน หนังแก้ว ผ้ายกดอก…
Editor
20 December 2017
Fashion InsiderFlashFlash 118Highlight 118Number 118POWER Mag

Fashion Insider : The True Genius

THE TRUE GENIUS Alexander McQueen แบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติอังกฤษที่ถ่ายทอดพลังความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นเอกลักษณ์ของดีไซเนอร์สุดอัจฉริยะ ด้วยไอเดียการดึงเอาความงามจากธรรมชาติรอบตัว สู่ผลงานการออกแบบที่ตราตรึงใจ STORY TAWAN KONKAEW PHOTOGRAPHY COURTESY OF BRANDS อะไรคือความทรงจำที่คุณมีต่อแบรนด์นี้ -- รองเท้าส้นสูง 10 นิ้วใน MV ของ Lady Gaga ผ้าพันคอลายหัวกะโหลกที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง หรือชุดแต่งงานชวนฝันของ Catherine Middleton -- เหล่านี้ล้วนมาจากตัวตนอันแตกต่างของแบรนด์ดังอย่าง Alexander McQueen ทั้งสิ้น Lee Alexander McQueen ผู้ซึ่งสร้างตำนานและเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่น เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1969 ในลอนดอน เขาคือเด็กชายชนชั้นกลางในครอบครัวธรรมดาๆ พ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นเพียงคนขับรถ McQueen เติบโตขึ้นมาในบ้านเล็กๆ ในเขตลอนดอนตะวันออก สำหรับอนาคตในวงการแฟชั่นชั้นสูงนั้น ดูจะห่างไกลจากความเป็นอยู่ในอดีตของเขาอย่างยิ่ง McQueen สร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการแสดงผลงานแฟชั่นผ่านมุมมองที่แตกต่างไม่เหมือนใคร แต่เมื่ออายุย่างเข้า 16 ปี McQueen ได้ตัดสินใจที่จะอุทิศตัวเองเพื่องานแฟชั่น เขาลาออกจากโรงเรียนและเข้าฝึกงานที่ร้านตัดสูทแบบเทเลอร์ Anderson & Sheppard ที่นั่นเองทำให้เขาได้เรียนรู้เทคนิคและวิชาการตัดเย็บอันซับซ้อน ที่กลายมาเป็นหนึ่งในรากฐานของผลงานการออกแบบของเขาในยุคต่อๆ มา เมื่ออายุ 21 ปี McQueen ตัดสินใจย้ายไปหาประสบการณ์ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยทำงานกับ Romeo Gigli ดีไซเนอร์ชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าzมากในช่วงทศวรรษ 1980 ไม่นานหลังจากนั้น McQueen ได้หวนกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา และสำเร็จปริญญาโทด้านการออกแบบแฟชั่นจาก Central Saint Martins สถาบันการออกแบบเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษและติดอยู่ในระดับท็อป 5 ของโลกด้วยMcQueen สร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการแสดงผลงานแฟชั่นผ่านมุมมองที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ทำให้การแสดงแฟชั่นโชว์ของเขาเป็นที่ติดตามและสร้างกระแสกระเพื่อมทั้งในวงการแฟชั่นและวงสังคมอย่างกว้างขวางทุกครั้งที่โชว์ของเขาเสร็จสิ้น ในปีค.ศ. 1996 McQueen ถูกว่าจ้างให้เป็นดีไซเนอร์ประจำ Givenchy Haute Couture ที่นี่เองเขาได้เปลี่ยนสไตล์ดั้งเดิมของแบรนด์ไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งได้รับการต่อว่าทางด้านลบอย่างมากจากกลุ่มลูกค้าเดิมของ Givenchy เขาจึงถูกไล่ออกโดยผู้ก่อตั้งกลุ่ม LVMH และดีไซเนอร์ดั้งเดิมของแบรนด์ Hubert de Givenchy แม้ว่าตัวผู้ก่อตั้งจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ดีเอ็นเอของแบรนด์ที่เข้มแข็งก็ได้รับการสานต่อภายใต้วิสัยทัศน์อันลึกซึ้งและเข้าใจผู้หญิงมากยิ่งขึ้น ในแบบฉบับของดีไซเนอร์สาว Sarah Burton แม้กระนั้น McQueen ยังคงอยู่ในโลกแฟชั่นและได้รับโอกาสอันเนื่องมาจากความอัจฉริยะของเขาเรื่อยมา ในปีค.ศ. 2000 แบรนด์ที่ตั้งตามชื่อของเขา Alexander McQueen ได้ถูก Gucci Group ซื้อสิทธิ์ควบคุมดูแลแบรนด์ให้อยู่ในบรรทัดฐาน ตลอดจนดูแลแผนธุรกิจ ซึ่งหมายรวมถึง การปรากฏตัวตามงานอีเวนต์ทั่วโลก การนำเสนอ ไลน์น้ำหอม รวมไปถึงผลงานการร่วมออกแบบกับแบรนด์รองเท้ากีฬาชื่อดัง Puma ที่สร้างความสำเร็จทางด้านภาพลักษณ์และยอดขายอย่างถล่มทลาย จนเป็นที่มาของการแตกแบรนด์ McQ แบรนด์น้องใหม่สำหรับผู้หญิงและผู้ชายที่วัยรุ่นกว่าเดิม และราคาเป็นมิตรมากยิ่งขึ้นในปีค.ศ. 2006ในปีค.ศ. 2003 McQueen ได้รับรางวัลนักออกแบบนานาชาติแห่งปี จากสภานักออกแบบแฟชั่นของอเมริกา และยังได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ CBE (Commander of the Most Excellent Order of the British Empire) อีกด้วย ในช่วงปลายทศวรรษ 2000 แบรนด์ Alexander…
Editor
20 December 2017