DestinationLifestyle

DESTINATION
World Tourism Day 2022
ฉลองวันท่องเที่ยวโลก
ออกไปเที่ยวโลกกันให้หายอยาก

By 27 September 2022 No Comments

วันที่ 27 กันยายน ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น World Tourism Day หรือ วันท่องเที่ยวโลก จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 1980 โดยองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของการท่องเที่ยวนั่นเอง

หลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายลง การเดินทางท่องเที่ยวที่ทุกคนรอคอยก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และเทรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อยก็คือ Revenge Travelพูดง่ายๆ ว่า เที่ยวโหดเหมือนโกรธโควิด ซึ่งเป็นความรู้สึกอัดอั้นหลังจากที่อุดอู้มานาน โดยคอนเซปต์หลักๆ ก็คือการออกไปเที่ยวไกลๆ เที่ยวยากๆ เที่ยวนานๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยด้วย และวันนี้ Power ร่วมฉลองวันท่องเที่ยวโลกด้วยหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยวสุดฟินในโลก ให้คุณออกได้ไปเที่ยวโลกกันให้หายอยาก

KOTOR – Montenegro

มอนเตเนโกร ประเทศเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่หลายคนมองข้าม มอนเตเนโกรมีภูมิประเทศอันงดงามอลังการ ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมที่ชวนค้นหาและน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง โดยหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ Kotor เมืองที่มีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันโบราณ โดยเมืองเก่าอันเลื่องชื่อแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในฐานะส่วนหนึ่งของเขตธรรมชาติและประวัติศาสตร์-วัฒนธรรมแห่ง Kotor และงานป้องกันของสาธารณรัฐเวนิสระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16–17: สตาโตดาแตร์รา–สตาโตดามาร์ตะวันตก การเดินชมเมืองจึงเต็มไปด้วยเสน่ห์และกลิ่นอายศิลปะแบบเวเนเชียนสลับกับธรรมชาติอันตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะวิวจากมุมสูงที่สามารถเห็นเมืองทั้งเมืองและอ่าว Kotor ที่เบื้องล่างนั่น

CEARÁ – Brazil

อีกหนึ่งเดสทิเนชันด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของบราซิล Ceará เป็นรัฐที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มีชื่อเสียงเรื่องชายหาดที่กว้างขวางตลอดความยาวเกือบ 600 กิโลเมตรที่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก โดยนอกจากความเงียบสงบและความสมบูรณ์ทางธรรมชาติแล้ว ลักษณะอันโดดเด่นของชายหาดที่นี่ คือ เนินทรายขนาดใหญ่ที่ให้อารมณ์คล้ายกับทะเลทรายอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวก็นิยมที่จะมาเล่น Sandboarding เดินสำรวจธรรมชาติ ชมความงามของเนินทรายที่บรรจบกับน้ำทะเลสวยแปลกตา หรือจะนั่งชมพระอาทิตย์เพียงเท่านี้ก็ฟินอย่าบอกใคร

CAÑO CRISTALES – Colombia

โคลอมเบีย ดินแดนที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งป่าดิบชื้น ที่ราบสูง ทุ่งหญ้า และทะเลทราย มีแนวชายฝั่งและเกาะต่างๆ ทั้งในมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิก จึงไม่น่าแปลกใจที่ปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์อย่าง Caño Cristales หรือที่รู้จักกันในชื่อ แม่น้ำห้าสี อันประกอบไปด้วยสีหลักๆ ได้แก่ สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า สีดำ และสีแดง ซึ่งเป็นสีของพืชใต้น้ำนานาพันธุ์ ด้วยความที่ Caño Cristales อยู่บริเวณรอยต่อของเทือกเขาแอนดีสและป่าแอมะซอน ประกอบกับเป็นแม่น้ำที่น้ำใสแจ๋วไม่มีดินและสัตว์น้ำเลย ทำให้สามารถมองเห็นความงดงามของสีสันได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าความงามเช่นนี้การเดินทางเข้าไปจึงไม่ง่ายนัก แต่ก็นับว่าคุ้มค่าหายเหนื่อย

GREAT BARRIER REEF – Australia

ด้วยเพราะมีความสำคัญทางธรรมชาติและทางวิทยาศาสตร์ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นวิวัฒนาการทั้งทางธรณีวิทยาและชีววิทยา เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามยิ่ง ตลอดจนเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพันธุ์พืชหายาก ทำให้ Great Barrier Reef พืดหินปะการังที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 2,000 กิโลเมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกตั้งแต่ปี 1981 Great Barrier Reef ประกอบไปด้วยแนวปะการังน้อยใหญ่ราว 3,000 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 345,000 ตารางกิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ถือเป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต แน่นอนว่าสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ ในปัจจุบันการท่องเที่ยวต้องเป็นไปในเชิงอนุรักษ์อย่างเต็มที่ ทำให้การนั่งเฮลิคอปเตอร์ชมความมหัศจรรย์จากด้านบน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการรบกวนให้ได้มากที่สุดเป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อย

M’ZAB VALLEY – Algeria

แอลจีเรีย อีกหนึ่งประเทศทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ที่แม้หลายคนจะไม่คุ้นเคยแต่รับรองได้ว่าจะต้องเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่แพ้ทริปไหนๆ และจุดหมายปลายทางที่ห้ามพลาดหากได้ไปเยือนก็คือ M’Zab Valley แหล่งที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นโดยชนพื้นเมืองตั้งแต่ราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 ประกอบด้วย 5 เมือง ได้แก่ Ghardaïa, Beni Isguen, Melika, Bounoura และ El Atteuf รวมเรียกว่า Pentapolis ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลทรายซาฮารา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1982 M’zab Valley เป็นหุบเขาที่มีโอเอซิสกลางทะเลทราย มีแหล่งน้ำ ต้นปาล์ม ชุมชน และสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบมาให้สอดคล้องเข้ากันกับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ รูปทรง สีสัน ตลอดจนผังเมืองที่เรียบง่ายแต่ก็งดงามมีชีวิตชีวาโดดเด่นกลางบรรยากาศร้อนแรงของทะเลทรายซาฮาราเป็นอย่างดี

ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป การเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทย ยกเลิกระบบ Test & Go แล้ว ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวทำได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมพบกับ KING POWER CLICK & COLLECT บริการพิเศษจาก คิง เพาเวอร์ ที่ช่วยให้ช้อปสินค้า ดิวตี้ ฟรี กับ คิง เพาเวอร์ ออนไลน์ รับของง่ายขึ้นที่สนามบินทั้งขาเข้า-ขาออก

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

#LoveTravellers
#PowerTravellers
#ชวนไทยเที่ยวโลกชวนโลกเที่ยวไทย
#ชวนไทยเที่ยวโลก
#KingPower

DESTINATION